ก่อนที่ เลสเตอร์ ซิตี้ (Leicester City) จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก (Premier League) ในปี 2016 พวกเขาสามารถหนีการตกชั้นสู่ แชมเปี้ยนชิพ (Championship) ได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่ดูเหมือนว่าปาฏิหาริย์นั้นคงไม่เกิดขึ้นซ้ำอีกครั้งในฤดูกาลนี้ ความจริงแล้ว สถานการณ์ปัจจุบันของพวกเขาไม่ได้เลวร้ายเท่ากับตอนนั้น ในฤดูกาล 2014-15 พวกเขาจมอยู่ก้นตารางเป็นเวลานาน เริ่มปีนขึ้นมาได้ในเดือนเมษายนหลังจากชนะ 7 นัดจาก 9 นัดสุดท้าย ซึ่งทำให้พวกเขารอดพ้นจากการตกชั้นอย่างไม่คาดคิด แต่ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมนี้ดูเหมือนจะแทบไม่มีความสามารถในการเอาชนะแม้แต่เกมเดียว ไม่ต้องพูดถึงการเก็บชัยชนะต่อเนื่อง หลังจากแพ้ เวสต์แฮม (West Ham) 0-2 เมื่อวันพฤหัสบดี ทำให้พวกเขาห่างจากโซนปลอดภัย 5 คะแนน “เราจะลุกขึ้นมาอีกครั้ง” รุด ฟาน นิสเตลรอย (Ruud van Nistelrooy) กุนซือของทีมให้คำมั่นหลังจบเกม “เรายังคงอยู่ในการต่อสู้นี้ ทางคณิตศาสตร์เรายังมีโอกาส และเราจะสู้ต่อไปจนกว่าจะหมดหวัง” “ต้องเข้าใจว่าวันนี้เราสู้เพียงครึ่งเดียว และแค่นั้นไม่เพียงพอ”
แทบไม่ได้ยิงประตู สถิติที่น่าวิตกของ เลสเตอร์ ในเวลานี้
เลสเตอร์ ซิตี้ ปลด สตีฟ คูเปอร์ (Steve Cooper) เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน หลังจากได้ลงแข่งลีกเพียง 12 นัด แต่การเปลี่ยนแปลงไม่ได้ส่งผลกระทบใกล้เคียงกับที่สโมสรคาดหวังไว้ และสถิติแสดงให้เห็นความน่าเป็นห่วง
- สถิติที่เหมือนตลกร้าย ในเวลานี้ เลสเตอร์ ซิตี้ แพ้ 11 จาก 12 เกมล่าสุดใน พรีเมียร์ลีก (ชนะ 1)
- ใน 14 เกมที่ รุด ฟาน นิสเตลรอย คุมทีม เขาเก็บได้เพียง 7 คะแนน น้อยกว่า สตีฟ คูเปอร์ กุนซือคนก่อนที่ทำได้ในฤดูกาลนี้ (10 คะแนนจาก 12 เกม)
- ไม่มีทีมใดเสียประตูตัวเองใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้มากกว่า เลสเตอร์ ซิตี้ (3 ประตู เท่ากับ เวสต์แฮม และ วูล์ฟแฮมป์ตัน (Wolves))
- เลสเตอร์ ยังไม่สามารถทำประตูได้ใน 4 เกมล่าสุดของ พรีเมียร์ลีก ซึ่งครั้งสุดท้ายที่เกิดขึ้นคือในเดือนกุมภาพันธ์ 2017 (6 เกมติดต่อกัน)
เกี่ยวกับปัญหาการทำประตูของ เลสเตอร์ รุด ฟาน นิสเตลรอย กล่าวเพิ่มเติมว่า “ถ้าคุณเล่นแบบนี้ในครึ่งแรก คุณจะไม่มีทางยิงประตูได้ เราแทบไม่ได้เข้าใกล้กรอบประตูเลย” “ในครึ่งหลังเราเข้าใกล้การทำประตูมากขึ้น อย่างน้อยเราก็ให้โอกาสตัวเอง”
วิกฤตการณ์ของ เลสเตอร์ ซิตี้ จากแชมป์สู่การดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดอีกครั้ง
เลสเตอร์ ซิตี้ เคยเป็นที่รู้จักจากเรื่องราวปาฏิหาริย์ในฟุตบอล พวกเขาหนีการตกชั้นอย่างน่าทึ่งในฤดูกาล 2014-15 ก่อนที่จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อย่างไม่น่าเชื่อในฤดูกาลถัดมา แต่ปัจจุบัน ทางเข้า แทงบอลออนไลน์ สโมสรกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหม่ที่อาจยากเกินกว่าจะฝ่าฟันได้ ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ทีม “จิ้งจอกสยาม” กำลังดิ้นรนอย่างหนักในทุกด้าน ทั้งด้านการป้องกันและการทำประตู ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย พวกเขาเสียประตูง่ายและไม่สามารถสร้างโอกาสทำประตูได้ ซึ่งเป็นสูตรที่ตรงไปตรงมาสำหรับการตกชั้น ทางเข้า แทงบอลออนไลน์ การตัดสินใจของสโมสรในการปลด สตีฟ คูเปอร์ หลังจากเพียง 12 เกมในฤดูกาลนี้ แสดงให้เห็นถึงความกดดันสูงและความคาดหวังที่สูงจากฝ่ายบริหาร อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้ง รุด ฟาน นิสเตลรอย ดูเหมือนจะไม่ได้เปลี่ยนโชคชะตาของทีมมากนัก ผลงานของเขายังคงแย่กว่าผู้จัดการทีมคนก่อน ซึ่งไม่ใช่สัญญาณที่ดีสำหรับอนาคตของสโมสร ความไม่สม่ำเสมอคือปัญหาใหญ่ที่ เลสเตอร์ ซิตี้ กำลังต่อสู้ ตามที่ รุด ฟาน นิสเตลรอย กล่าวหลังการแข่งขันกับ เวสต์แฮม ทีมสามารถแสดงความพยายามและการแข่งขันที่ดีในบางช่วงของเกม แต่ไม่สามารถรักษาระดับการเล่นนั้นได้ตลอดทั้ง 90 นาที ปัญหาการทำประตูของทีมเป็นเรื่องน่ากังวลอย่างยิ่ง เลสเตอร์ ไม่สามารถทำประตูได้ใน 4 เกมล่าสุด ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2017 สถิตินี้แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวในการสร้างโอกาสที่มีคุณภาพและการขาดความคมในพื้นที่สุดท้าย การป้องกันก็เป็นปัญหาสำคัญเช่นกัน โดยเลสเตอร์ เสียประตูตัวเองสามประตูในฤดูกาลนี้ ซึ่งมากที่สุดใน พรีเมียร์ลีก (เท่ากับ เวสต์แฮม และ วูล์ฟแฮมป์ตัน) สิ่งนี้บ่งชี้ถึงความกดดันมหาศาลที่กองหลังของพวกเขาต้องเผชิญและความไม่มั่นใจที่กำลังแพร่กระจายในทีม แม้ว่า รุด ฟาน นิสเตลรอย จะยืนยันว่าทีมยังคงอยู่ในการต่อสู้ “ทางคณิตศาสตร์” แต่ความเป็นจริงก็คือโอกาสของพวกเขานั้นลดลงอย่างรวดเร็ว ด้วยการเป็นทีมที่ห่างจากโซนปลอดภัย 5 คะแนน และมีเกมเหลือน้อยลงเรื่อยๆ เลสเตอร์ จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและถาวรในฟอร์มการเล่น ตารางการแข่งขันที่เหลือไม่เอื้ออำนวยต่อทีมที่กำลังดิ้นรน ในขณะที่ทีมคู่แข่งในการหนีตกชั้นหลายทีมกำลังแสดงสัญญาณของการฟื้นตัว เลสเตอร์ ดูเหมือนจะติดอยู่ในวังวนของความพ่ายแพ้เพื่อที่จะทำซ้ำปาฏิหาริย์เหมือนในฤดูกาล 2014-15 เลสเตอร์ จะต้องค้นพบพลังและความมุ่งมั่นที่พวกเขาเคยแสดงในอดีต พวกเขาจำเป็นต้องสร้างชัยชนะให้ได้โดยเร็วที่สุดเพื่อสร้างแรงผลักดันและความเชื่อมั่นในกลุ่มนักเตะ หากเลสเตอร์ ซิตี้ ต้องการเปลี่ยนโชคชะตาของพวกเขา พวกเขาจำเป็นต้องปรับปรุงหลายด้านอย่างเร่งด่วน ประการแรก พวกเขาต้องแก้ไขปัญหาการทำประตู โดยการพัฒนาเกมรุกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและสร้างโอกาสที่มีคุณภาพมากขึ้น ประการที่สอง การป้องกันต้องมีความมั่นคงมากขึ้น เลสเตอร์ จำเป็นต้องขจัดความผิดพลาดที่ไม่จำเป็นและรักษาสมาธิตลอดทั้งเกม ความสม่ำเสมอเป็นกุญแจสำคัญ และตามที่ รุด ฟาน นิสเตลรอย กล่าว การเล่นเพียงครึ่งเดียวนั้นไม่เพียงพอ สุดท้าย ความเป็นผู้นำและจิตวิญญาณของทีมต้องปรากฏชัดเจนมากขึ้น ในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ ทีมจำเป็นต้องมีผู้นำที่แข็งแกร่งในสนามเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นเพื่อนร่วมทีม เลสเตอร์ ยังคงต้องการจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้และความไม่ยอมแพ้ที่เคยนำพวกเขาจากก้นตารางสู่ความปลอดภัยในอดีต แม้ว่าสถานการณ์จะดูมืดมน แต่ประวัติศาสตร์ของ เลสเตอร์ ซิตี้ สอนเราว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ในฟุตบอล พวกเขาเคยทำสิ่งที่เหลือเชื่อมาก่อน และแม้ว่าภูเขาที่ต้องปีนในครั้งนี้จะสูงมาก แต่ “จิ้งจอกสยาม” ยังคงเชื่อว่าพวกเขาสามารถสร้างปาฏิหาริย์อีกครั้งและรักษาสถานะ พรีเมียร์ลีก ของพวกเขาไว้ได้