เอลิเอเซอร์ มาเยนดา

มาเยนดายิงประตูชัยนาทีท้าย ซันเดอร์แลนด์เฉือนโคเวนทรีในรอบเพลย์ออฟแชมเปียนชิพ

เอลิเอเซอร์ มาเยนดา (Eliezer Mayenda) วัย 20 ปี กลายเป็นฮีโร่ซัดประตูชัยในนาทีที่ 88 ช่วยให้ ซันเดอร์แลนด์ (Sunderland) เอาชนะ โคเวนทรี ซิตี้ (Coventry City) 2-1 ในเกมแรกของรอบรองชนะเลิศเพลย์ออฟ แชมเปียนชิพ (Championship) อังกฤษ

กองหน้าชาวสเปนที่เพิ่งฉลองวันเกิดอายุครบ 20 ปีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของ มิลาน ฟาน เอวิจค์ (Milan van Ewijk) แบ็คขวาของทีมเจ้าบ้านที่เล่นบอลกลับหลังผิดพลาด ก่อนที่มาเยนดาจะหลบผู้รักษาประตู เบน วิลสัน (Ben Wilson) และยิงเข้าไปอย่างเด็ดขาด

เกมนี้เริ่มสนุกในช่วง 20 นาทีสุดท้าย เมื่อทั้งสองทีมทำประตูห่างกันเพียง 2 นาที โดยทีมเยือนขึ้นนำก่อนจากลูกยิงของ วิลสัน อิสิดอร์ (Wilson Isidor) กองหน้าชาวฝรั่งเศสที่รอคอยประตูมานานกว่า 3 เดือน เมื่อเขายิงลอดตัวผู้รักษาประตูวิลสันเข้าไป

แต่ โคเวนทรี ตอบโต้อย่างรวดเร็วเพียง 110 วินาทีเท่านั้น เมื่อ แจ็ค รูโดนี (Jack Rudoni) กองกลางฟอร์มร้อนโหม่งบอลจากการครอสของ ฟาน เอวิจค์ เข้าประตูไป นับเป็นประตูที่ 7 จาก 11 เกมหลังสุดของเขาและหากใครไม่อยากพลาด ทางเข้าสโบเบ็ตมือถือ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

นี่เป็นชัยชนะครั้งแรกของ ซันเดอร์แลนด์ ในรอบ 8 เกม หลังจากฟอร์มตกในช่วงท้ายฤดูกาลปกติ แต่ทุกอย่างยังต้องตัดสินกันในเกมที่สองที่สนาม สเตเดียม ออฟ ไลท์ (Stadium of Light) ในวันอังคารนี้เวลา 20.00 น. ตามเวลาอังกฤษ

ผู้ชนะในคู่นี้จะได้พบกับทีมที่ชนะระหว่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (Sheffield United) หรือ บริสตอล ซิตี้ (Bristol City) ที่สนามเวมบลีย์ (Wembley) ในวันที่ 24 พฤษภาคม โดยปัจจุบัน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด นำอยู่ 3-0 จากเกมแรก

ประวัติศาสตร์ระหว่างสองทีมนี้ย้อนกลับไปถึงปี 1977 เมื่อ โคเวนทรี และ บริสตอล ซิตี้ เสมอกัน 2-2 ทำให้ ซันเดอร์แลนด์ ต้องตกชั้น ต่อมาในอีก 20 ปีถัดมา แบล็คแคทส์แพ้ในนัดสุดท้ายอีกครั้งทำให้ โคเวนทรี รอดตกชั้นพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ

ซันเดอร์แลนด์ เข้าสู่รอบเพลย์ออฟด้วยฟอร์มที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์หลังแพ้มา 5 เกมติดต่อกัน พวกเขาอยู่ในอันดับ 4 มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน และรอเพลย์ออฟมานานกว่า 3 เดือน อย่างไรก็ตาม เรกิส เลอ บริส (Regis Le Bris) หัวหน้าผู้ฝึกสอนมั่นใจว่าการมีเป้าหมายใหม่จะช่วยปลุกทีมให้กลับมาทำผลงานดีเหมือนช่วง 6 เดือนแรกของฤดูกาล

ในขณะที่ โคเวนทรี ภายใต้การคุมทีมของ แฟรงค์ แลมพาร์ด (Frank Lampard) ตำนานของ เชลซี (Chelsea) ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเก็บได้ 52 คะแนนจาก 29 เกมตั้งแต่เขาเข้ามาแทนที่ มาร์ค โรบินส์ (Mark Robins) ในเดือนพฤศจิกายน

หลังจบเกม ฟาน เอวิจค์ ถึงกับร่ำไห้เพราะความผิดพลาดของเขา แต่ โคเวนทรี ยังมีโอกาสแก้ตัวในอีก 90 นาทีบนแผ่นดินเวียร์ไซด์ และถึงแม้ ซันเดอร์แลนด์ จะเป็นต่อ แต่ไม่ควรลืมว่าผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของ แลมพาร์ด ในฐานะผู้จัดการทีมคือการพา ดาร์บี้ เคาน์ตี้ (Derby County) พลิกสถานการณ์กลับมาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด (Leeds United) ในรอบเพลย์ออฟแชมเปียนชิพที่สนาม เอลแลนด์ โรด (Elland Road) ในปี 2019

“นี่เป็นผลงานที่ดี” แลมพาร์ด กล่าวกับ BBC CWR “ผมไม่จำเป็นต้องพูดถึงความผิดพลาดมากนัก แต่การเล่นโดยรวมถือว่าดี เราไม่สามารถทำประตูได้เพราะพวกเขาป้องกันเขตโทษได้ดีมาก แต่เราทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ในช่วงใหญ่ของเกม แม้อาจจะขาดความแม่นยำในช่วงสุดท้ายไปบ้าง”

“มันไม่เป็นไปตามที่หวัง และเราไม่สมควรแพ้ แต่เราไม่สามารถก้มหัวได้และต้องเข้าใจว่ายังมีอะไรให้เล่นอีกมาก” แลมพาร์ด กล่าวเสริม

ด้าน เรกิส เลอ บริส หัวหน้าผู้ฝึกสอน ซันเดอร์แลนด์ กล่าวกับ BBC Radio Newcastle ว่า “มันเป็นเกมที่ยากมาก โคเวนทรี เล่นฟุตบอลได้ดีจริงๆ เราตัดสินใจเล่นด้วยกองหน้าสองคน เราจึงยอมให้พวกเขาครองเกมในแดนกลาง”

“เรารู้สึกตั้งแต่ต้นครึ่งหลังว่าพวกเขาเล่นบอลแบบต่างๆ และตอนนี้เราสามารถหลบแรงกดดันและสร้างการเชื่อมต่อกับกองหน้าของเราได้ มันใช้ได้ผลดี” เลอ บริส กล่าว

“เราจะมีเกมที่ยากอีกครั้งที่บ้าน มันยังไม่จบ ความคิดในห้องแต่งตัวชัดเจนมาก ไม่มีความพึงพอใจ เรารู้ว่าเราจะมีเกมที่ยากอีกครั้ง สถานการณ์อื่น คู่ต่อสู้ที่ยาก ดังนั้นมาตั้งต้นใหม่กัน” เลอ บริส กล่าวทิ้งท้าย

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ เอลิเอเซอร์ มาเยนดา มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และหากใครไม่อยากพลาด ทางเข้าสโบเบ็ตมือถือ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *